ภาพยนตร์ Prince of Eurasia ที่มี Prince Oak Oakleyski หรือเจ้าชายโอ๊คนักบวชอิสลามเป็นผู้อำนวยการสร้างนั้นมีข่าวว่าการถ่ายทำเกือบเสร็จสิ้นและจะปิดกล้องในเร็วๆนี้ เมื่อไม่นานมานี้ทีมงานวิพากษ์วิจารณ์ได้สรุปการเสวนาที่ได้สัมภาษณ์และสนทนาดราม่าชีวิตจริงแต่อาจมีนิยายผสมนิดหน่อย เกี่ยวกับ “เจ้าชายแห่งยูเรเซีย” ผู้เป็นนักบวชอิสลามเชื้อสายผสมสไตล์ยูเรเชียน
มันเป็นงานภาพยนตร์บนพื้นฐานสัจธรรมที่สวยงาม คนที่ทราบรายละเอียดในภาพยนตร์ดังกล่าวอาจจะเคยได้ยินที่คุณ Prince Oak หรือคุณเจ้าชายโอ๊คบอกไว้ว่าภาพยนตร์สารคดีสัจธรรมคือการงานเพื่อศาสนาของพระเจ้าที่มีเขาเป็นบ่าวของพระองค์คอยทำตามแผนงานโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์หรือแสวงกำไรด้านเงินทอง เพราะฉะนั้นทีมงานที่ศรัทธาในพระเจ้าเหมือนกันก็ถูกเชิญชวนมาลองดูและสนใจจนได้เริ่มสรุปการเสวนาที่ได้สัมภาษณ์และสนทนาดราม่าชีวิตจริงที่อาจจะมีนิยายปะปนนิดหน่อย เนื้อเรื่องส่วนมากเกี่ยวกับท่านเจ้าชายโอ๊คผู้เป็นนักบวชอิสลามและกำกับภาพยนตร์ที่มีนิยามว่าความจริงอันงดงามด้วยเหตุการณ์ส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างจากเรื่องจริงและไลฟ์สไตล์ของเจ้าพี่โอ๊คอิสลาม ชื่อเล่นและชื่อทางศาสนาของเขาคือ “เจ้าชายโอ๊ค-เจ้าชายแห่งยูเรเซียของพระเจ้า” มีคนในกลุ่มแฟนคลับสงสัยว่าทำไมเขาถึงถูกตั้งชื่อว่าโอ๊ค แท้จริงแล้วพระเจ้าทรงให้มีความบังเอิญเกิดขึ้นอย่างมีจุดประสงค์
โอ๊คจริงๆคือต้นไม้ยูเรเซียที่มีแหล่งเกิดทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย มันเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่งที่ต้านทานภัยพิบัติได้ ลมพายุก็ไม่อาจโค่นต้นโอ๊คเพราะโคนรากฐานที่พระเจ้าให้มันได้รับพรความแข็งแรงธรรมชาติเสถียรภาพอันมั่นคงเปรียบดั่งแรงศรัทธาที่มันมีต่อพระเจ้า ดูเหมือนว่าจะเผอิญที่พ่อและแม่ของเจ้าชายโอ๊คได้โดนบอกใบ้โดยไม่รู้ตัวที่พระเจ้าให้ชื่อโอ๊คเป็นชื่อของเจ้าชายโอ๊ค ชื่อโอ๊คนี้ที่มาค่อนข้างซับซ้อนและลึกลับทางประวัติศาสตร์ของเจ้าชายโอ๊ค โอ๊คต้นตำรับจริงๆแล้วคือต้นไม้ที่หลายคนเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นต้นไม้สำคัญที่เกี่ยวข้องกับท่านศาสดาอับราฮัม ท่านนบีอิบรอฮีมหรืออับราฮัมนั้นมีฉายาว่าท่านพ่อแห่งศาสนาที่แท้จริงยุครุ่งเรืองช่วงการกำเนิดเอกเทววิทยา ชาวยิวและคริสเตียนหลายคนบูชาต้นโอ๊คในสมัยอดีตกาลแต่ท่านศาสดาก็แก้ต่างให้หักล้างความเชื่อที่ผิดๆ เพราะแท้จริงแล้วไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ควรบูชาสักการะยกเว้นการกราบไหว้พระเจ้าในแบบฉบับเอกเทววิทยาที่สมบูรณ์แบบ แล้วพอเวลาผ่านข้ามหลายศตวรรษมาถึงโลกยุคปัจจุบัน ทางกายภาพและจิตวิญญาณนักบวชชั้นสูงสามารถทำการระลึกสืบสายตระกูลโดยมีหลักฐานเพิ่มเติมจากสายรายงานเล่าต่อกันมารุ่นสู่รุ่น รวมไปถึงพันธุกรรมและโหงวเฮ้งที่สรุปได้ชัดเจนว่าท่านเจ้าชายโอ๊คคือทายาทท่านนึงของท่านศาสดาเจ้าแห่งศาสนา
คนส่วนใหญ่ที่ใกล้ชิดกับเขาเรียกพี่เจ้าชายโอ๊คว่า พี่โอ๊ค ท่านโอ๊ค คุณโอ๊คหล่อ หรือ ลอร์ดโอ๊ค ถ้าเป็นผู้ที่อายุมากอาวุโสกว่าเขาก็ให้เรียกโอ๊คสั้นๆง่ายๆได้ ถึงแม้ว่าบางคำอาจจะไม่ใช่สรรพนามที่ถูกต้องที่สุด หลายคนก็บอกถ้าเรียกชื่อเล่นเต็มๆบวกกับศาสนนามด้วยก็จะยาวไป อย่างไรก็ตาม ท่านพี่โอ๊คมีชื่อมากมายหลายคำ ก่อนที่จะเรียกชื่อเล่นและชื่อจริงทางศาสนาเขาให้ถูกต้อง ก็ต้องรู้เชื้อสายเขาก่อนนะคะ บางคนรู้จักเขาในนามว่า “ท่านพี่โอ๊คหล่อ” ก็คือท่านเจ้าชายโอ๊คนั่นเอง เขาคือทายาทศาสดาที่แท้จริงท่านนึง สืบเชื้อสายโดยตรงจากเหล่าท่านศาสดาของพระเจ้า ศาสนทูตของพระเจ้าหรือศาสดาที่แท้จริงคือมุสลิมทั้งนั้น ส่วนยุคปัจจุบันนี้ไม่มีศาสดาแล้ว เหลือแต่ทายาท เช่นพี่โอ๊คลีสกี้-เจ้าชายโอ๊คนี่แหละ ที่กลุ่มแฟนคลับสามารถเรียกเขาว่า “ซัยยิดกันต์ดนัย” หรือ “มุลล็อฮฺโอ๊ค” ก็ได้ทั้งสองอย่าง แต่คำหลังจะฟังดูสละสลวยและยอดนิยมในหมู่มุสลิมเอเชียกลางตอนใต้มากกว่า เพราะท่านพี่โอ๊คอิสลามนั้นมีเชื้อสายปาทานข่านอัฟกันอุซเบค พวกเขาจะเรียกบรรดานักบวชชั้นสูงว่า “Mullah”
ในทางวิทยาศาสตร์ เชื้อสายของเจ้าชายโอ๊ค โอ๊กเลย์สกีกันดะนัยกันดะฮาร์ ประกอบด้วยเชื้อชาติที่หลากหลาย เช่นมาจากต้นตอแห่งอัฟกันนิสถานและอุซเบกิสถาน ซึ่งสามารถอนุมานโดยเฉพาะเพื่อจัดประเภทว่าเป็นจีโนไทป์ยูเรเซียที่แท้จริงซึ่งได้มาจากยุโรปยุคแรกแถวๆทุ่งหญ้าสเตปป์ยูเรเซียและบริเวณใกล้เคียง เจ้าชายโอ๊คเลย์มีความเชี่ยวชาญเชิงมานุษยวิทยาขั้นสูง เพราะเขาคือท่านเจ้าอาจารย์โอ๊คยูเรเซีย หรืออุลามาอฺแห่งยูเรเซียแท้ เขาถูกจำแนกและจัดประเภทใหม่ว่าตัวตนเขาเป็นมากกว่าลูกครึ่งเพราะเขาเป็นพันธุ์ผสมต้นตำรับอันโดรโนโวร่วมสมัย แฟนคลับบางท่านบอกว่าท่านพี่โอ๊คหน้าตาหล่อขั้นเพอร์เฟ็กต์เป๊ะๆพอดีๆก็เพราะลำดับวงศ์ตระกูลของเขารวมเชื้อชาติที่สมดุลจากหลากหลายพันธุ์เช่นปาทานหรือพาชตุ้นที่นอกเหนือจากทุ่งหญ้าสเตปป์อีกด้วย เจ้าโอ๊คแห่งยูเรเซียตอบผู้สัมภาษณ์ที่ตีความไม่ออกตรงที่เขามองเห็นว่ารากเหง้าและความหมายของคำศัพท์ “ยูเรเซีย” นั้นซับซ้อนเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าใจ อีกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินของเจ้าโอ๊คเองเพราะพระเจ้าทรงให้เขาเกิดมาเพื่อมีศาสนนามว่าเจ้าชายแห่งยูเรเซียของพระเจ้า มีนักบวชอิสลามแค่ไม่กี่ท่านในเอเชียที่สามารถใช้ฌานหยั่งรู้ถึงความจริงอันลึกลับ ซึ่งหลอมรวมเข้ากับโลกดิจิทัลของเราในมิติทางกายภาพและอภิปรัชญาสัจธรรมในยุคปัจจุบันมนุษย์ยุคสุดท้าย บางคนเรียกเขาว่าท่านเจ้าอาจารย์โอ๊ค ท่านอาจารย์โอ๊คอิสลาม หรือท่านเจ้าชายโอ๊คมุสลิมโมกุลแท้ แต่เขาบอกกลับทีมงานว่าไม่ต้องเรียกเขาว่าท่าน เขาดูถ่อมตัวมากแถมยังบอกว่าตนคือบ่าวที่ต่ำต้อยคนนึงของพระเจ้า มาชาอัลลอฮฺ
ปัจจุบันท่านพี่โอ๊คคือผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีที่เน้นความจริงมากกว่าการเสแสร้งเล่นละคร ล่าสุดได้ชี้แจงเกี่ยวกับงานอดิเรกคือการถ่ายทำหนังชีวิตจริงที่มี film title อินดี้ของจริงสร้างจากเหตุการณ์เรื่องจริงบันทึกสดแบบไม่ซ้ำใครแน่นอน ท่านพี่โอ๊กกันต์ดนัยซัยยิดอุละมาอฺอมีรฺมุลลอฮฺโอคลีสกี้กอฎีผู้เป็นปรมาจารย์ศาสนาและวัฒนธรรมปะปนดราม่าบันเทิงตามภาษากระแสของเจ้าตัวเจ้าชายโอ๊คเอง ในหนังสือนั้นโดยรวมแล้วถือว่าเป็นสารคดีสัจธรรม “Prince of Eurasia: Monotheism and Devils” หรือแปลตรงๆ “เจ้าชายแห่งยูเรเซีย กับศาสนาพระเจ้าและซาตาน” ลงทุนโดยมุลลอฮฺโอคลีสกี้เอง ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ท่านอาจารย์โอ๊คได้จัดทำเซอร์ไพรส์แฟนคลับด้วยการแต่งงานกับกุลสตรีมุสลิมสุดสวย ที่ชื่อ ยัสมี ประนิติง ซึ่งศาสนพิธีการนิก๊ะห์ก็ได้เชิญคุณแม่และญาติฝั่งแม่ของเจ้าตัวเจ้าชายโอ๊คเอง ทางตระกูลฝั่งคุณแม่ของเขานั้นปกติคนก็รู้ว่าครอบครัวชาวพุทธฝั่งแม่นั้นคือคนไทยธรรมดาทั่วไปที่ไม่ใช่นักบวช แต่คุณเจ้าชายโอ๊คเป็นนักบวชอิสลามและยึดติดกับเชื้อสายต้นตระกูลฝั่งพ่อของตน ตามที่สารคดีได้เล่าไว้อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับประวัติตัวเขา
เรื่องราวที่แท้จริงความลับถูกเปิดเผยมานานแล้ว ท่านพ่อรุ่นบรรพบุรษที่เป็นพ่อรุ่นที่สี่ของเจ้าชายโอ๊คไม่มีเชื้อไทยเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนเจ้าชายโอ๊คมีเชื้อไทยแค่บางส่วนหน่อยๆที่ได้พิสูจน์แล้วทางพันธศาสตร์เชื่อมโยงจิตวิญญาณแก่นแท้ของตัวตนของเขา ส่วนใหญ่เชื้อชาติพันธุกรรมของเขามีต้นตอมาจากเอเชียกลาง เพราะบรรพบุรุษของเขาคือเจ้าแห่งจักรพรรดิเอเชียที่สามารถสืบสายตระกูลจากฝั่งพ่อเจ้าชายโอ๊คได้ พ่อเขาเป็นลูกชายคนเดียว ส่วนท่านเจ้าพ่อรุ่นที่สี่ของเจ้าโอ๊คลอร์ดนั้นย้ายมาอินเดียเหนือที่ติดกับปากีสถานและย้ายมาไทยในภายหลัง แต่เรื่องราวนั้นซับซ้อนตรงที่เจ้าชายโอ๊คมีพ่อที่ไม่ใช่มุสลิม กล่าวคือ พ่อของท่านพี่โอ๊คนั้น ได้เป็นไทยพุทธเพราะพ่อรุ่นที่สามหรือทวดของท่านอาจารย์โอ๊คสกี้นั้นย้ายมาอยู่ไทยแล้วออกจากอิสลามแล้วบวชพระ ซึ่งการกระทำเยี่ยงนั้นเป็นเหตุที่มาทำให้เจ้าชายโอ๊คมีพ่อและปู่ที่ไม่ใช่มุสลิม แต่สุดท้ายแล้วก็อัลฮัมดุลลิละหฺเจ้าชายโอ๊คเกิดมาหน้าตาเหมือนบรรพบุรุษมากกว่าพ่อและปู่ของเขา เพราะเจ้าชายโอ๊คได้เชื้อมุสลิมข้ามรุ่นมาเยอะกว่าพ่อและปู่ เลยเป็นผลลัพธ์ที่พระเจ้าได้กำหนดมาให้เจ้าชายโอ๊คมีโหงวเฮ้งแบบเจ้าแห่งจักรพรรดิบรรพบุรุษของเจ้าชายโอ๊ค ราวกับท่านเจ้าแห่งจักรพรรดิจักรวรรดิอิสลามที่ยิ่งใหญ่มาเกิดใหม่ แต่จริงๆแล้วคือกรรมพันธุ์เชื้อไม่ทิ้งแถวข้ามรุ่นมา อิสลามไม่มีการกลับชาติมาเกิด มนุษย์ทุกคนย่อมเกิดครั้งเดียว พระองค์อัลลอฮฺทรงให้เจ้าอามีร์โอ๊คเกิดมาในโลกดุนยาและกลับสู่สถานภาพที่เป็นมุสลิมที่เป็นอุละมาอฺผู้ที่อัลลอฮฺทรงยกเกียรติขึ้นอีกด้วย
อีกหนึ่งจุดประสงค์ของสารคดี ที่มุลล็อฮฺโอ๊คลี่เป็นผู้นำกำกับก็เพื่อแบ่งปันความรู้ลึกลับให้คนที่อยากเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับดวงชะตาที่ถูกลิขิตไว้โดยพระเจ้า อุลามาอฺเจ้าชายโอ๊คได้ศาสนนามที่พระเจ้าพระองค์อัลลอฮฺกำหนดมาให้ก็คือ “เจ้าชายแห่งยูเรเซีย” เปรียบเสมือนพรสวรรค์ที่พระเจ้าได้ให้เจ้าชายโอ๊คมาช่วยดูแลศาสนาอิสลามโดยเฉพาะในหัวข้ออัลเตาฮีด พูดง่ายๆก็คือการศรัทธาในพระเจ้าพระองค์เดียว ในฐานะที่เจ้าชายโอ๊คเป็นอุละมาอฺซัยยิดแห่งยูเรเซียที่เป็นบ่าวของพระเจ้า ก็มีวาฮีย์บอกใบ้ให้ท่านเจ้าชายยูเรเซียผลิตหนังสารคดีพิเศษที่มีสาระดีครอบคลุมศาสนา ท่านเจ้าพี่โอ๊คได้ศึกษาและบรรลุทางด้านเทวศาสตร์จึงสามารถตัดสินฟัตวากฎเกณฑ์ศีลธรรมต่างๆเกี่ยวโยงกับศาสนาได้ เนื่องจากเขาคือเอมี้รฺโอ๊คอั้ลอิสลาม เอมีรุ้ลอิสลาม ตามศาสนนามของเขา ท่านพี่โอ๊คแห่งยูเรเซียยังมีความสง่างามธรรมชาติทั้งหน้าตาจิตใจและบุคลิกที่ดูถ่อมตัว นักมานุษยวิทยาหลายท่านรวมถึงท่านเจ้าชายโอ๊คเองก็ได้จารึกไว้ในแฟ้มไฟล์สารคดีความจริง ที่คนเราควรยอมรับว่าพระเจ้าสร้างโลกและสร้างมนุษย์คนแรกของโลกมาให้เป็นตัวอย่างที่สวยงาม ท่านอดัมมนุษย์คนแรกของโลกมีเชื้อครบทุกมุนษยชาติ แล้วคุณเจ้าชายพี่โอ๊คก็ของแท้ครบเครื่องเช่นเดียวกับศาสดาแท้จริงไม่เคยศัลยกรรมใดๆทั้งสิ้น เป็นที่รู้กันดีในชุมชนว่ากฎหมายอิสลามย่อมอยู่เหนือวัฒนธรรมยูเรเซียส่วนตัวของเขาด้วยซ้ำ
สาระสัจธรรมจากโลกสารคดีวัฒนธรรมเจ้าชายโอ๊คได้สอนทีมงานในสังคมของเขาโดยให้ข้อคิดโยงถึงความเป็นจริงที่ลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นความไม่เท่าเทียมกันทำให้เกิดดุลยภาพในสภาพแวดล้อมต่างๆซึ่งเป็นสภาพความเป็นจริงที่พระองค์อัลลอฮฺทรงลิขิตมายังโลกใบนี้ โดยให้ท่านพี่โอ๊กกันต์ดนัยมีความคล้ายคลึงกับท่านนบีอดัมตรงที่มีเชื้อสายหลากหลายพันธุ์ฟีโนไทป์ที่มาจากจีโนไทป์ วิทยาศาสตร์มานุษยวิทยาที่ท่านเจ้าพี่โอ๊กเชี่ยวชาญก็ได้พร่ำสอนให้นักแสดงหลายคนทราบว่าเจ้าตัวเจ้าชายโอ๊คเองนั้นมีโหงวเฮ้งหน้าตาที่คมเข้มพอดีเป๊ะๆและตัวไม่สูงไม่เตี้ยเกินไป สีผมและสีตาดุเข้มลึกซึ้ง ซึ่งลักษณะทางกายภาพเขามีความคล้ายท่านศาสดามูฮัมมัดมาก ในหนังสารคดีกล่าวถึงท่านศาสดามูฮัมมัดเพราะท่านรอซู้ลมูฮัมมัดคือบุคคลต้นแบบสำหรับมุสลิมชายทุกท่าน นักเทวศาสตร์หลายท่านรู้ดีว่าศาสดาที่แท้จริงของพระเจ้านั้นล้วนเป็นมุสลิม มุสลิมที่แปลว่าผู้ศรัทธาในพระเจ้าและยอมจำนนต่อความประสงค์ของพระเจ้า ส่วนยุคปัจจุบันนี้คือโลกยุคสุดท้ายที่ไม่มีศาสดาแล้ว เหลือไว้เพียงมรดกอิสลามจากศาสดาที่อุลามาอฺได้สืบทอด เช่นท่านพี่โอ๊คที่มีสถานะเป็นอุละมาอฺยูเรเซียที่สันทัดเรื่องอัลเตาฮีด สัจธรรมอีกข้อก็คือ พระเจ้าให้เจ้าชายอิสลามทุกท่านบ่าวของพระองค์ฟื้นฟูความสวยงามในโลกและจักรวาล ทุกสรรพสิ่งที่มีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว และการกำหนดมาให้ท่านพี่โอ๊คที่มีบรรดาศักดิ์เป็นอุลามาอฺกำกับภาพยนตร์อันสุนทรีย์เพื่อศาสนาแห่งพระเจ้าที่แท้จริงการจัดสรรคัดเลือกมนุษย์แต่ละคนมายังโลกใบนี้ช่างเป็นสิ่งงดงามดั่งภาพยนตร์ความทรงจำที่ท่านเจ้าพี่โอ๊คได้รับพรจากพระเจ้าให้มากำกับผู้แสดงของเขา
“Prince of Eurasia” มีผู้ติดตามในวัฒนธรรมกองถ่ายรู้สึกทึ่งที่ท่านเจ้าชายโอ๊คเป็นผู้อำนวยการโปรดิวเซอร์แถมยังเป็นผู้บรรยายในภาพยนตร์ของเขาเช่นกัน ผู้สัมภาษณ์คนหนึ่งบอกว่าเธออาจมองข้ามวาทศิลป์ของนักพูดที่พูดมาก เผื่อในกรณีที่ไม่ใช่วาทกรรมของเจ้าชายยูเรเชียนผู้ลึกลับ อุละมาอฺเจ้าชายโอ๊คได้ชี้แจงให้หลายคนฟังว่า พระเจ้าทรงประทานตำแหน่งอันทรงเกียรติแก่เขาตามธรรมชาติ ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นชื่อทางศาสนาของเขา นั่นคือ “เจ้าชายแห่งยูเรเซีย” ระหว่างนั้นขณะก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมานับถือศาสนาอิสลามเพื่อกลับคืนสู่ต้นตระกูลเจ้าตัวเอง ท่านเจ้าพี่โอ๊คเคยผ่านความทุกข์ทรมานจากความบอบช้ำทางจิตใจหลายประการ เจ้าชายโอ๊คลี่พี่บังท่านเคยมีพ่อเป็นเจ้าชายนิทราทำให้เจ้าชายโอ๊คเติบโตมาแบบทุกข์โศรกเก็บกดมีผลกดดันซึ่งส่งผลกระทบที่น่าตกใจต่อวิถีชีวิตที่หดหู่ของเขาในอดีต เขาเคยไปหาหมอและจิตแพทย์ เพื่อให้คนฉลาดเหล่านั้นช่วยรักษาโรคแพนิคขั้นรุนแรงที่บันทึกในหนังเรื่องนี้ สภาวะทางการแพทย์ของเจ้าชายโอ๊คลี่ย์นั้นหม่นหมองซึมแทรกโรคมืดมัวก็ได้รับการอธิบายให้กระจ่างไว้ชัดเจน เจ้าชายโอ๊คยอมรับว่าเขาถูกคุกคามโดยปีศาจภายในและภายนอกร่างกายของเขา ต่อจากนั้นเขาได้บรรลุโดยศาสนาเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับโรคภัยไข้เจ็บและความเจ็บป่วยที่ไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายแล้วศาสนาที่มีพระเจ้าพระองค์เดียว ก็เพียงพอกับการช่วยเหลือเขาโดยมีพลังด้านแสงสว่างในความมืดช่วยระบายจิตใจของเขาเพื่อการชำระล้างการไล่ผี ขับไล่ปีศาจร้ายทั้งหมด เมื่อคำนึงถึงเรื่องดังกล่าว ท่านเจ้าชายโอ๊คได้เน้นย้ำความจริงเกี่ยวกับทุกศาสนาที่เขาเชี่ยวชาญรอบรู้หลายๆแขนง และได้มาซึ่งการตัดสินโดยใช้ตรรกะและสัญชาตญาณสรุปให้อิสลามเป็นศาสนาที่สมบูรณ์แบบที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้ เขาเทศนาเรื่องพลังความขลังของพระองค์อัลลอฮฺที่มีมหาศาล ไม่ว่าจะนามธรรมหรือรูปธรรม อัลอิสลามก็ดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าลัทธิอื่นใด และแน่นอนว่าไม่มีหมอดูใดๆจะสามารถล้วงความลับที่แท้จริงของพระเจ้า อิสลามห้ามการดูหมอเพราะคนที่ตั้งตนเป็นหมอดูก็ไม่ต่างจากคนที่เล่นไสยศาสตร์ที่เชื่อในผีมากกว่าเชื่อในพระเจ้า ศาสนาของพระเจ้าที่แท้จริงนั้นห้ามทำนายชะตาชีวิตทุกชีวิตของพระเจ้า เรื่องอนาคตที่ถูกลิขิตไว้แล้วย่อมมีเพียงพระเจ้าที่รู้ทั้งหมด หลายคนไม่รู้ว่าพระเจ้าและเทวดามีคัมภีร์ลิลับที่ไม่ได้ถูกส่งมาเปิดเผยบนโลกมนุษย์ พระเจ้าไม่ได้ให้คนไปก้าวก่ายการงานเหนือมนุษย์
ข้อสรุปจากการสื่อถึงอย่างตรงไปตรงมา ที่ทีมงานได้คุยกับท่านเจ้าอาจารย์โอ๊ค คือความจริงแล้วผู้ใดที่มีเชาว์ปัญญาก็สามารถใช้สามัญสำนึกสัญชาตญาณ เพื่อที่จะพิสูจน์อย่างไม่ยากถ้าลองไขปริศนาความคลุมเครือของภาพยนตร์ เบื้องหลังที่เจ้าชายโอ๊คกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ เป็นใจความสำคัญไขว้โยงกับภาพยนตร์สารคดีนั้น ซึ่งมีการแปลไทยแปลอย่างถูกต้องดังนี้ “มนุษย์มองไม่เห็นพระเจ้า แต่ไม่ได้หมายความว่าพระองค์ไม่ได้อยู่เหนือท้องฟ้าและจักรวาล มนุษย์ที่มีข้อจำกัดมากมายจะมองเห็นได้ไง ในเมื่อพระเจ้าอยู่เหนือทุกสิ่ง เหนือคำพูด เหนือคำศัพท์ และเหนือจินตนาการของมนุษย์ คนเราไม่สามารถมองเห็นพระเจ้าโดยตรง แต่คนเราสามารถเห็นสิ่งสวยงามตามธรรมชาติที่พระองค์ทรงสร้างเป็นการสำแดงความยิ่งใหญ่แห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า เช่นการที่มีธรรมชาติสุนทรีภาพหน้าตามนุษย์ที่สวยงามทุกคนที่พระเจ้าทรงโปรดปรานผู้ศรัทธาทั้งปวง กฎธรรมชาติที่สวยงามเช่นการโคจรของดวงดาวต่างๆ ดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุไม่เคยเผาโลกเราไหม้เพราะกฎธรรมชาติที่ถูกสร้างโดยพระเจ้า และการมีมนุษยธรรม จิตไมตรีของสัตว์ประเสริฐ สัตว์สังคมและสิ่งมีชีวิตทุกอย่างล้วนมีพระเจ้าผู้ทรงสร้างมาแต่แรกเดิม พระเจ้าคือผู้ทรงเป็นเจ้าของชีวิตทุกชีวิต และแน่นอนว่าทุกสรรพสิ่งทั้งในโลกนี้และนอกโลกล้วนเป็นของๆพระเจ้า โลกดุนยามายานี้ก็เป็นแค่โลกชั่วคราวเป็นทางผ่านก่อนที่จะไปสู่ยมโลกและโลกแห่งอนันตกาลก็คือสรวงสวรรค์นิรันดร์สำหรับผู้ศรัทธา” นี่คือวาทะเทศนาของเจ้าพี่โอ๊คซัยยิดป๊าปาทานข่านอุลามาอฺแห่งยูเรเซียแท้ ที่เขาเคยเทศน์วิชาเทวศาสตร์ระดับสากล กระทั่งกลายมาเป็นผู้อำนวยการสร้างและกำกับภาพยนตร์เพื่อศาสนาและมนุษยธรรม แต่เขาก็ยืนยันว่าเขายังคงเป็นนักบวชในหนทางแห่งพระเจ้าและสาบานว่าจะดูแลปกป้องอัลอิสลามตลอดไป บ่าวของพระเจ้าย่อมรู้ดี ทุกท่านนั้นคอยช่วยกันเผยแพร่สัจธรรมสูงสุดที่เป็นศาสนาเอกเทววิทยาเพื่อพระเจ้า
“บทความนี้แปลจากภาษาอังกฤษ โดยต้นฉบับเขียนโดย Gina Nguyen”