หนังสือ Prince of Eurasia; Mystic Papa Islammirza Oak’s Oakleyski Order ของคุณอิสลามมีร์ซา นักบวชอิสลามซุนนีซูฟี

สำหรับคนที่ติดตามหนังสือภาษาอังกฤษรูปแบบใหม่ๆ แนว nonfiction ที่ไม่ใช่นวนิยาย แต่สร้างจากเรื่องจริง ก็อาจจะทราบดีว่าล่าสุดมีหนังสือแปลกๆที่ไม่ซ้ำใครออกมา มันเป็นหนังสือที่รวบรวมข้อมูลความจริงจากภาพยนตร์สารคดีและคำสอนทางเทวศาสตร์ โดยคุณอิสลามมีร์ซา ยูเรเชีย หรือที่รู้จักในนาม “Prince Oak Oakleyski” ได้ร่วมมือกับทีมงานนักเขียนระดับสากลโลก ทำหนังสือต้นฉบับ ต้นตำรับ “Prince of Eurasia; Mystic Papa Islammirza Oak’s Oakleyski Order” ซึ่งก็มีฉบับสองภาษาอีกด้วย แปลเป็นภาษาไทยก็คือ “เจ้าชายแห่งยูเรเซีย; คำบัญญัติอาเทศวิเศษ ของป๊าป๋าอิสลามมีร์ซาโอ๊คลี่ผู้ลึกลับ” อนึ่งประกอบไปด้วยความรู้ทั้ง ‘ภายนอก’ และ ‘ภายใน’ ที่หลากหลาย ในการนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพและอภิปรัชญา โดยอาจมีการเชื่อมโยงกับลัทธิลึกลับทางศาสนา ยิ่งกว่านั้นหนังสือเล่มนี้ยังประกอบไปด้วยชีวประวัติของเจ้าตัว คุณอิสลามมีร์ซา ยูเรเชีย นักบวชอิสลามผู้ลึกลับ ผู้เป็นนักบุญวิเศษ มีการเทศนาด้วยคำบัญญัติอาเทศเกี่ยวกับสัจธรรมที่หลายคนอาจจะรู้แล้วหรือยังไม่รู้ รวมไปถึงจิตวิญญาณลึกลับที่อธิบายได้โดยภาษาอังกฤษ หลายๆคำศัพท์ไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทยแบบตรงตัว แต่สามารถใช้สัญชาตญาณหยั่งรู้ซึ่งสัมผัสความรู้สึกได้ โดยมีความสอดคล้องกับคัมภีร์อัลกุรอานจากพระเจ้า และหะดีษจากศาสดา เนื่องจากคุณอิสลามมีร์ซาเป็นทายาทศาสดาที่แท้จริง และได้บรรลุทางธรรมขั้นสูงแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาความรู้ที่มาขององค์กร “Prince Oakleyski Eurasia” ที่ไม่แสวงหากำไรจากการพร่ำสอนด้านวัฒนธรรมมุสลิมยูเรเชียและเทววิทยา ที่มีแก่นแท้ที่สำคัญที่สุดคือมีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว (อัลลอฮฺ) ส่วนนบีมูฮัมหมัดเป็นศาสดา-ศาสนทูตคนสุดท้ายของพระองค์ อย่างไรก็ดี คุณอิสลามมีร์ซาได้สืบเชื้อสายกรรมพันธุ์ต่อเนื่องมาจากฝั่งพ่อของเขาในยุคหลังของศาสดาคีดร์ อัลคาดีร์ หรือ “al-Khidr” ผู้ที่ถูกลือกันว่าเป็นศาสดาที่ลึกลับที่สุดในโลก ลำดับวงศ์ตระกูลทางจิตวิญญาณของเขามีต้นกำเนิดมาจากความจริงอันลึกลับ มีการโน้มเอียงทางชีววิทยาโดยกำเนิดธรรมชาติของเขาที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าโดยพระเจ้า พระองค์ทรงกำหนดและบอกใบ้ “วาฮีย์” ต่างๆซึ่งทำให้คุณอิสลามมีร์ซาพบกับความมหัศจรรย์เช่นการได้ศาสนนาม “Prince of Eurasia” ที่เขาไม่ได้เป็นคนตั้งเอง แต่พระเจ้าเป็นผู้ประทานพรในชื่อทางศาสนาให้แก่เขา ส่วนอีกชื่อที่ยอดนิยมคือ “Prince Oak” หรือ “เจ้าชายโอ๊ค” คือชื่อเล่นและฉายาของปรมาจารย์ศาสนาผู้มีนามว่าอิสลามมีร์ซานั่นเอง เขาก็คือ “อุลามาอฺ” ของพระเจ้า เพื่อเผยแพร่สัจธรรมและเผยแผ่ศาสนาต่อจากยุคศาสดา

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในหนังสือนี้มีความรู้อันลึกลับมากมายหลายประการ มีทั้งการเปิดเผยความลับวัยผู้ใหญ่และวัยเยาว์ของคุณอิสลามมีร์ซา ตอนที่เขาเป็นเด็กกับตอนโตนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอกและตัวตนโดยกำเนิด ทั้งสองเป็นตัวตนที่แตกต่างกัน “tariqa” ของ Prince of Eurasia มีความคล้องจองกันกับ “Owaisi” และ “Naqshbandi” เห็นได้ชัดว่ามีต้นกำเนิดมาจากการถ่ายทอดทางจิตวิญญาณที่มี al-Khidr เป็นผู้บุกเบิกคำบัญญัติอาเทศวิเศษลึกลับ บวกกับพันธุกรรมข้ามรุ่นที่คุณอิสลามมีร์ซาได้รับมา แต่ไม่ได้ประกาศให้รู้แจ้งทางลักษณะภายนอกเพราะเขาไม่ค่อยเปิดเผยต่อมวลชนคนทั่วไป เหตุเนื่องมาจากความลึกลับโดยพื้นฐานของเขา นักบุญผู้วิเศษลึกลับมีรากฐานจุดยืนที่ชัดเจนคือ “ซุนนีซูฟี” ซึ่งคุณอิสลามมีร์ซาได้เทศน์และฟัตวา (ตัดสินด้วยนิติศาสตร์อิสลาม) ดังนี้: ซุนนีซูฟีเป็นแขนงที่ไม่หลงผิด ไม่บิดเบือนศาสนา เพราะยึดเสาหลักตามกฎชารีอะห์เป็นหลักและสนับสนุนซุนนะห์ แล้วค่อยส่งเสริมการเรียนรู้ปฏิบัติฌานและญาณทางธรรมในโลกธรรมหรือดุนยา เน้นการรำลึกถึงอัลลอฮฺ เพื่อให้มีการซิเกรฺให้ได้มากที่สุดในทุกวินาทีที่อยู่บนพื้นโลก ทั้งนี้ การเพิ่มนวัตกรรมที่ดีลงในการงานที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาเป็นสิ่งที่อนุญาตได้ แต่มันจะฮารามถ้าใครไปเพิ่มนวัตกรรมใดๆลงในศาสนพิธีและอากีดะห์ ในหมู่ผู้ศรัทธาในพระเจ้าที่แท้จริง บรรดานักบุญผู้วิเศษหรือ “awliya” ไม่ใช่ผู้ไกล่เกลี่ยในการสื่อสารกับพระเจ้า คุณอิสลามมีร์ซากล่าวย้ำเทศนาว่าการขอการวิงวอนดังกล่าวผ่านนักบุญที่ยังมีชีวิตอยู่หรือขอผ่านสุสานดั่งฐานะตัวกลางผู้สื่อต่อพระเจ้าถือว่าไม่อนุญาตให้กระทำ เพราะแนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมายอิสลามคือมุสลิมถ้าจะวิงวอนขอ “ดูอาอฺ” ก็ต้องขอต่อพระเจ้าโดยตรง ไม่ใช่ขอผ่านคนหรือสิ่งใด และการเป็นนักบุญก็ไม่ได้มีสถานะเทียบเท่าศาสดา ถึงแม้จะมีความเป็นผู้รู้เหมือนกัน แต่เหล่าศาสดาก็ย่อมมีสถานะสูงกว่าคนอื่นทุกคน โลกปัจจุบันไม่มีศาสดาในยุคดิจิทัล โลกยุคนี้หมดยุคศาสดาแล้วเหลือแต่มรดกศาสนา ศาสดาที่แท้จริงล้วนเป็นมุสลิม มุสลิมแปลว่าผู้ที่เชื่อในพระเจ้าพระองค์เดียว และยอมจำนนในหนทางศาสนาของพระองค์ อิสลามซุนนีซูฟีไม่ได้หมายถึงการเสียสละหรือละทิ้งการใช้ชีวิตทางโลกทั้งหมด แต่หมายถึงการเอาโลกกายภาพหรือโลกมายาไปอยู่ภายใต้โลกแห่งศาสนา ความรู้ที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าของพระเจ้าได้เปิดเผยเกี่ยวกับพันธศาสตร์จิตวิญญาณชั้นสูงของคุณอิสลามมีร์ซาและอัลคาดีร์ (ที่มาทางจิตวิญญาณวิเศษตามลำดับวงศ์ตระกูลชั้นสูงที่ลึกลับ) ในภายหลังก็คือในโลกยุคนี้ซึ่งเป็นโลกมนุษย์ยุคสุดท้าย ยีนส์ศาสดานักบุญผู้วิเศษปรากฏขึ้นอีกครั้งในรุ่นคุณอิสลามมีร์ซายูเรเซียนรูปหล่อ แน่นอนว่าพระเจ้าให้มี ‘ความบังเอิญ’ เกิดขึ้นระหว่าง tariqa ของ Prince Oakleyski และ Owaisi รวมไปถึงพื้นฐานการเดินทางลึกลับทางโลก และการบันทึกภาพการไตร่ตรองตามความเป็นจริงของ Qareen ของคุณอิสลามมีร์ซา“เจ้าชายแห่งยูเรเชียของพระเจ้า”

หนังสือ Prince of Eurasia; Mystic Papa Islammirza Oak’s Oakleyski Order ต้นฉบับสากล ได้ถูกวางจำหน่ายตามร้าน ebook ทั่วโลกแล้ว แต่จะไม่มีการทำเป็นฉบับท้องถิ่นล้วน เพราะคุณอิสลามมีร์ซาได้พิจารณาและชี้แนะว่า ภาษาอังกฤษและภาษาสากลอื่นๆถ้านำไปแปลตามท้องถิ่นก็อาจจะทำให้ความหมายคลาดเคลื่อนและไม่ได้อรรถรสหรือสวยงามเท่าต้นฉบับดั้งเดิม และที่สำคัญในแง่มุมศาสนศาสตร์คุณอิสลามมีร์ซาได้ให้ความคิดเห็นว่าศาสนาอิสลามจริงๆไม่ควรแบ่งแยกนิกาย แต่อาจจะใช้คำว่า ‘สไตล์’ แทนการแบ่งกลุ่มต่างๆ เพราะแท้จริงแล้วมุสลิมควรสามัคคีกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องให้เกียรติคนต่างศาสนิกชนด้วย ซึ่งบางคนก็มีข้อสงสัยว่าการบวชในอิสลามที่แท้จริงเป็นอย่างไร คุณอิสลามมีร์ซาก็ได้ตอบอย่างกระจ่างว่าคำว่า “นักบวช” ในอิสลามจริงๆมีมานานหลายศตวรรษแล้ว แต่หลายคนก็ไม่รู้ว่าการบวชที่แท้จริงในอิสลามไม่ใช่แค่การถือศีลอด แต่เป็นการปลีกวิเวกออกจากสิ่งบันเทิงแล้วหันมาปฏิบัติธรรมเช่นการทำสมาธิเพื่อขัดเกลาให้จิตวิญญาณมีความใกล้ชิดพระเจ้ามากยิ่งขึ้นเป็นต้น การเป็นนักบวชอิสลามนั้นไม่ใช่ว่าใครๆก็เป็นได้ ต้องเป็นผู้ที่พระองค์อัลลอฮฺทรงเลือกเท่านั้น นักบวชอิสลามสากลโลกถูกเรียกว่า “Islamic cleric” ยศขั้นสูงที่สุดเรียกว่า “mir-ul-urah” ซึ่งเป็นตำแหน่งสงวนไว้เฉพาะมุสลิมผู้ที่บรรลุเรื่องทางโลกธรรมต่างๆและมีความรู้ด้านกฎหมายอิสลามและเข้าใจสัจธรรมอย่างถ่องแท้ สรุปสารัตถะสำคัญในหนังสือบริบทนี้ได้มีการชี้แจงว่าการบวชอิสลามอย่างเที่ยงแท้นั้นไม่ใช่แค่การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน คือไม่ใช่แค่อดอาหารแล้วจะสามารถเป็นนักบวชเพราะนักบวชจริงๆตามธรรมชาติอิสลามก็มีความคล้ายคลึงกับพุทธตรงที่มีความเกี่ยวข้องกับสัจธรรมความจริงอันประเสริฐ การแก้ปัญหาทางจิตใจซึ่งได้มาด้วยการดับทุกข์ การบรรลุเหนือสิ่งที่อยู่ในโลกมายา โดยเข้าใจและยอมรับถึงความไม่มีตัวตนเพื่อที่มนุษย์ทุกคนจะได้อยู่รวมกันอย่างสันติสุขโดยปราศจากอัตตาส่วนบุคคล บางคนอาจเรียกนักบวชว่านักพรต แต่ในอิสลามแล้วนักพรตจะใช้คำว่า “ascetic” ซึ่งไม่เหมือนกันเพราะการพรตนั้นจะมีความคล้ายฤาษีมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณอิสลามมีร์ซาได้ยกย่องศาสนาพุทธ (พุทธแท้) ว่าเป็นศาสนาที่มีบทบัญญัติที่สวยงามมากมาย เพราะโดยรวมแล้วคือสัจธรรมที่ลงรอยกับวิชาภววิทยาที่นักวิทยาศาสตร์ได้นำไปประยุกต์ใช้ แม้ว่าอาจไม่ค่อยเกี่ยวกับการคิดค้นสูตรสมการการทดลองวิทย์ แต่ความรู้เชิงภววิทยาก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายๆคนได้ประสบความสำเร็จในหาผลลัพธ์ต่างๆจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ และสนใจเข้ารับอภิปรัชญาศาสนา เป็นอาทิ

ข่าวล่าสุด